วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ญี่ปุ่น...อีกแล้ว (2)

ญี่ปุ่น...อีกแล้ว (2)
เมืองออนเซ็น...ยูฟูอิน
หลังจากนอนเอาแรงในคืนแรกที่ฮากะตะ เช้าวันรุ่งขึ้นเราสามคนตื่นแต่เช้า ลงมารับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารเล็ก ๆ ในโรงแรม ที่โรงแรมมีห้องอาหารเช้าให้เลือกสองประเภท ห้องที่เราเลือก มีอาหารที่เราค่อนข้างจะคุ้นเคย เช่นข้าวญี่ปุ่น ปลาย่าง ไส้กรอก ไข่กวน ซุปเต้าเจี้ยว และเครื่องเคียงนับสิบชนิด ส่วนอีกห้องเป็นห้องอาหารญี่ปุ่นขนานแท้ เสริฟเป็นเซ็ท ซึ่งไปเดินเมียงๆมองๆ ดูแล้วไม่น่าจะต้องรสนิยม เมื่อจัดการอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นไปเอากระเป๋าใหญ่มาฝากไว้ในห้องรับฝากกระเป๋าของโรงแรม ลากกระเป๋าเล็กคนละใบเดินไปสถานีรถไฟ จุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือเมือง
ยูฟูอิน (YUFUIN)

          
          ยูฟูอิน เป็นเมืองออนเซ็นเล็ก ๆ ในจังหวัดโออิตะ (OITA)ทางภาคตะวันออกของเกาะคิวชู เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของน้ำแร่ธรรมชาติ และเป็นที่รู้จักของคนไทยในฐานะที่เป็นเมืองต้นแบบหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ จะว่าไปแล้วนับเป็นโชคดีของเมืองยูฟูอิน ที่มีผู้นำชุมชนที่มองการณ์ไกล เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติในเมืองยูฟูอินที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือเป็นเมืองที่มีน้ำพุร้อนเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติมากมาย ความคิดที่จะพัฒนายูฟูอินให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงเกิดขึ้น จนทุกวันนี้เมืองเล็กๆอย่างยูฟูอินที่มีผู้คนอาศัยอยู่เพียงหมื่นกว่าคน ต้องเปิดประตูบ้านรับนักท่องเที่ยวที่ถาโถมเข้ามาถึงปีละ 2 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนในชุมชนก็ยังคงอยู่แบบพอเพียง ไม่ถือโอกาสกอบโกย โรงแรมที่พักก็ยังคงมีจำนวนจำกัด รับนักท่องเที่ยวได้ไม่มากเกินไป เพื่อสร้างให้วิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนเกิดความสงบสุข                                 
วันนี้จึงเป็นวันที่เราใช้ตั๋วรถไฟ JR Kyushu เป็นวันแรก เราขึ้นรถขบวนที่ชื่อว่า ยูฟูอิน โนะ โมริ (YUFUIN NO MORI) รถไฟออกจากสถานีฮากะตะเวลา 09.16 น.ฉันเช็คสภาพอากาศมาล่วงหน้า จึงรู้ว่าวันนี้จะมีฝนในช่วงเช้า และช่วงบ่ายจะมีฝนตกประปราย พยากรณ์อากาศที่ประเทศญี่ปุ่นแม่นเหมือนจับยามสามตา เพราะระหว่างเดินทางก็มีฝนโปรยปรายตลอดเวลา ภูมิประเทศสองข้างทางฉ่ำฝน มีสายหมอกบางๆ เรี่ยพื้นดินให้เห็นเป็นระยะ  

                  

           
                 รถด่วนขบวนนี้ถึงยูฟูอินตรงเวลาเป๊ะ คือเวลา 11.28 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงกว่าหน่อยๆ ฉันเคยเดินทางมาที่เมืองเล็กๆในหุบเขาแห่งนี้สองครั้งแล้ว ครั้งแรกมากับอาจารย์ปี๋เพื่อหาที่แช่น้ำแร่ ครั้งที่สองมากับครอบครัว แต่ไม่มีโอกาสได้พักค้างแรมเลย เพราะค่าที่พักแพงเหลือใจ ก็ได้แต่หมายมั่นปั้นมือไว้ว่าคงมีโอกาสสักวัน
และโอกาสนั้นก็มาถึง ตอนวางแผนการเดินทาง ฉันในฐานะหัวหน้าทัวร์ขอบรรจุโปรแกรมค้างคืนที่ยูฟูอินเอาไว้ด้วย และได้แจ้งราคาเรียวกังที่เราจะพักค้างคืนให้อาจารย์ทั้งสองท่านรับทราบ ที่พักที่ฉันจองชื่อ RYOKAN HIKARI-NO-IE ราคาคืนละ 37,800 เยน ในขณะที่ที่พักใจกลางเมืองในฮากะตะที่เราพักราคาเพียง 13,000 เท่านั้น เราจึงพยายามไม่คิดแปรค่าเงินเป็นเงินบาทไทยกันเลย
เนื่องจากว่าฉันไม่เคยมาพักที่เมืองนี้และไม่มีคนแนะนำเรื่องที่พัก ฉันจึงใช้บริการจากเว็บไซต์ http://www.japanhotel.net     ซึ่งก็มีที่พักให้เลือกเพียงไม่กี่แห่ง แต่ที่ฉันต้องการพักคือเรียวกังที่มีบรรยากาศเป็นบ้านญี่ปุ่นแท้ ๆ และพระเจ้าก็ดลบันดาลให้ฉันจิ้มเลือกเรียวกังแห่งนี้ เพราะดูแผนที่และคำอธิบายแล้ว ก็ไม่น่าจะห่างไกลนัก เพราะถ้านั่งแท๊กซี่จากสถานีรถไฟก็จะใช้เวลาเพียง 5 นาที เท่านั้น

                  
             แต่อนิจจา ฉันลืมไปว่า เมืองที่รถไม่ติดเช่นยูฟูอิน ห้านาทีจากสถานีรถไฟก็พาเราไปไกลแทบจะออกนอกเมือง ฉันกับอาจารย์ปี๋หันมามองหน้ากัน ตายละวา เราจะพาอาจารย์โก้เดินเข้าเมืองได้อย่างไร เพราะเมื่อวานฉันก็ทรมานอาจารย์โก้ด้วยการเดินที่ดาไซฟุจนเท้าระบมมาหยก ๆ คนอื่นอาจจะคิดว่าก็นั่งแท๊กซี่เข้าเมืองก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉันและอาจารย์ปี๋ เรามีความสุขที่จะเดินเก็บเกี่ยวความงดงามของสิ่งเล็กสิ่งน้อยสองข้างทางไปเรื่อย ๆ  ซึ่งจะไม่มีวันสัมผัสได้เลยถ้าเรานั่งรถ
เมื่อเข้าที่พักซึ่งเป็นบ้านของสองสามีภรรยาที่ดัดแปลงห้องต่าง ๆ เป็นห้องพัก ฉันก็ควักแผนที่เมืองยูฟูอินที่หยิบจากสถานีรถไฟ อธิบายเส้นทางที่เราจะต้องเดินเข้าเมือง ตอนนี้เรายังมีแรงฉันขอให้ลองเดินดูก่อน ถ้าเหนื่อยหรือเมื่อยเราค่อยนั่งแท๊กซี่แทน ซึ่งอาจารย์ทั้งสองท่านก็เห็นด้วย
และก็ไม่น่าผิดหวัง เพราะบ่ายนี้ฝนหยุดตก อากาศต้นเดือนมีนากำลังสบาย ทุกลมหายใจที่สูดเข้าไปสัมผัสได้ถึงอากาศที่สดสะอาด ดอกไม้เล็กเล็กสีสันสดใสสองข้างทางที่เราไม่รู้จักชื่อ ไม่แม้แต่เคยเห็น แข่งกันบานอวดโฉมให้ผู้มาเยือนหยุดเก็บภาพเป็นระยะ ระหว่างทางมีบ่อน้ำแร่อุ่น ๆ ให้แช่เท้าคลายเมื่อย ระยะทางไกลหลายกิโลเมตรจึงดูไม่น่าเบื่อและเนิ่นนานอย่างที่คิด

      


           

                          เมืองยูฟูอินเป็นเมืองน่ารักเกินกว่าที่จะมาสัมผัสเพียงผิวเผิน บ่ายนี้เรามีเวลาแค่เดินตามถนนที่สองข้างทางยาวเหยียดหลายกิโลเมตรจัดเป็นร้านรวงสวยงามจับใจ คนที่หลงใหลได้ปลื้มกับแมวอย่างอาจารย์ปี๋ พอใจนักหนากับร้านที่ทุกอย่างเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแมว อาจารย์โก้กับฉันเพลิดเพลินกับร้านที่มีของที่ระลึกจากการ์ตูนเรื่อง Hakaba Kitaro และ Monchhichi    นอกเหนือจากนั้นร้านขายของแฮนด์เมด ที่มีน้อยชิ้นไม่ซ้ำแบบใครก็ถูกใจอาจารย์โก้เป็นอันมาก ข้าวของที่น่ารักเหลือใจทำให้เราสามคนเทกระเป๋าไปเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

      


     

ตกเย็นเรานั่งแท๊กซีกลับที่พัก ห้องพักในเรียวกังอันเป็นที่พำนักในค่ำคืนนี้ปูด้วยเสื่อทะทะมิ มีประตูเลื่อน ผนังกระดาษ ไม่มีเตียงแต่ใช้เป็นที่นอนฟุตงปูเรียงกันสามที่ ไม่มีห้องอาบน้ำในห้องพัก แต่จะมีบ่อน้ำแร่ที่แยกเป็นห้องอาบน้ำชายหญิงอยู่ชั้นล่าง โชคดีที่เรียวกังแห่งนี้ไม่ค่อยมีแขกมาพัก เราสามคนจึงไม่กระดากใจมากนักที่จะลงไปอาบน้ำแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เราสวมยูกะตะไปที่ห้องอาบน้ำ กรรมวิธีก่อนลงแช่น้ำก็ไม่ยุ่งยาก เพียงเราถอดเสื้อผ้าไว้ในตะกร้าที่จัดให้ และนั่งบนเก้าอี้ไม้เตี้ย ๆ หันหลังให้กัน อาบน้ำล้างตัวก่อนลงแช่  แต่...ถึงแม้จะมีเพียงเราสามคน ก็มิอาจหย่อนตัวเปล่า ๆ ลงในบ่อน้ำได้ เราจึงมีผ้าผืนขนหนูผืนเล็กๆเล็กมาก ปิดกายได้บางส่วนค่อยๆ กระมิดกระเมี้ยนก้าวลงน้ำไปทีละคน อากาศเยือกเย็นประจวบกับร่างกายอ่อนล้า เมื่อได้สัมผัสกับน้ำแร่ธรรมชาติที่อุ่นจัด จึงรู้สึกผ่อนคลายสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เรานั่งๆนอนๆ แช่น้ำคุยกันเรื่องจิปาถะประมาณครึ่งชั่วโมงก็ทะยอยกันขึ้น
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารเย็น เราลงมาชั้นล่าง ห้องครัวอยู่ติดห้องอาหาร เราเห็นพ่อครัวแม่ครัวสองสามีภรรยาเตรียมอาหารให้เราง่วนอยู่ อาหารที่รับประทานในเรียวกังประกอบขึ้นจากผลผลิตในท้องถิ่นเป็นหลัก จัดวางอย่างสวยงาม จึงไม่เพียงแต่อิ่มท้องเท่านั้น หากอิ่มใจไปกับหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นภาชนะอีกด้วย ฉันนึกเห็นใจแม่บ้านญี่ปุ่น เพราะสำรับอาหารสำหรับแต่ละคน ก็ประกอบด้วยจานชามถ้วยเล็กถ้วยน้อยนับสิบชิ้น


                      


                หนึ่งวันที่ยูฟูอินผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้เรามีเวลาอ้อยอิ่งอีกเกือบเต็มวัน เพื่อชื่นชมเมืองเล็กๆในหุบเขาที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ ค่ำคืนนี้เราซุกตัวใต้ผ้าห่มหนานุ่ม นอนหลับสนิทฝันดีในเรียวกังเมืองยูฟูอิน ประเทศญี่ปุ่น



                               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น